บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2016

เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ชำระหนี้พร้อมค่าเสียหายได้

เจ้าหนี้จะมีสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายได้ด้วยซึ่งแล้วแต่เจ้าหนี้จะเลือกใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 213  คือ เรียกให้ชำระหนี้และเรียกค่าเสียหาย "ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่ง่บังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้    อนึ่งบทบัญญัติในวรรคทั้งหลายที่กล่าวมานั้น หากระทบกระทั่งถึงสิทธิที่จะเรียกเอาค่าเสียหายไม่" หรือเจ้าหนี้ก็ยังสามารถใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 391     "เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม...        การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้น หากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่" คือ บอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหาย 1.เมื่อเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องนั้น เจ้าหนี้จะต้องใช้สิทธิโดยสุจริต ตาม ป.พ.พ. มาตรา 5  2.เมื่อเจ้าหนี้เรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นหนทางที่ลูกหนี้สามารถปฏิเสธไม่ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ มีสาระสำคัญหลายเรื่องด้วยกัน สำหรับวันนี้ จะนำเสนอหลักการปฏิเสธ

วางแผนปล้นและแวะมาดูจะถือเป็นตัวการร่วมปล้นหรือไม่

นายเอกวางแผนการปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย กำหนดให้นายตรีกับพวกอีก 2 คนเข้าไปปล้นทรัพย์ในบ้านผู้เสียหายโดยนายตรีกับพวกนั้นไม่ได้คิดจะปล้นทรัพย์ผู้เสียหายมาก่อน เมื่อวางแผนการเสร็จนายเอกกับนายโทร่วมกันนะส่งนายตรีกับพวกเพื่อทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย โดยนายโททำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะไปส่งจากนั้นนายเอกกับนายโทไป คอยอยู่ที่ร้านอาหารห่างจากบ้านผู้เสียหาย 100 เมตร นายตรีกับพวกแอบเข้าปล้นทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายขัดขืนและต่อสู้โดยใช้อาวุธปืนยิงนายตรีกับพวก  จึงวิ่งหนีออกจากบ้านผู้เสียหายโดยไม่ได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเลย ในเวลาไล่เลี่ยกันนายเอกกับนายโทย้อนกลับมาดูบุคคลทั้ง 3 พบนายตรี ส่วนพวกอีก 2 คนหลบหนีไปแล้ว นายเอกกับนายโท จึงรับนายตรีขึ้นรถกระบะพากันหลบหนีไปมีปัญหาว่านายเอกและนายโทมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่ การที่นายเอกเป็นผู้วางแผนและกำหนดให้นายตรีกับพวกอีก 2 คน ไปลงมือกระทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่านานตรีกับพวกคิดจะไปปล้นทรัพย์ผู้เสียหายอยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ว่านายเอกเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดจึงเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 และเมื